Present Simple Tense & Past Simple Tense

Present Simple Tense

1.โครงสร้างประโยค

โครงสร้างประโยค : S + V1 (ประธานเอกพจน์ กริยาเติม s,es)

ประธาน + กริยาช่องที่ 1 (ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ กริยาต้องเติม s หรือ es แล้วแต่กรณี)

            S + กริยาช่วย + V1

            ประธาน + กริยาช่วย + กริยาช่องที่ 1 (ไม่ต้องเติม s ทุกกรณี)

            กริยาช่วยที่ใช้บ่อยคือ can, should, must

2. หลักการใช้ Present Simple Tense

2.1 ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นจริง เช่น

            Bangkok is the capital city of Thailand.          The earth  moves  around the sun.

            Tigers are dangerous animals.                        The moon shines at night.

            The sun rises in the morning.                          He is a doctor.

            He comes from Thailand.                              Fish swim in the water.

            Elephants are the largest  land animals.          It's cold in winter.

2.2 ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ

ในกรณีนี้มักจะมีคำแสดงเวลาร่วมอยู่ด้วย คือ often, always, sometimes, usually, generally, rarely, scarcely, hardly, never, now and again, from time to  time, occasionally, as a rule, once a week, every other day, every night/day/week  เช่น

            Thai people give  respect to the old.                He always gets up at  eight  o’clock.

            She sometimes does homework at school.      You usually buy fruit at 7-11.

            We hardly ever drink coffee in the evening.     He often comes to my house.

            It seldom rains in the morning.                        They never drive to work.

            Somchai plays football every day.                  We watch a movie every Monday.

                                          She goes to England every year. 

2.3 ใช้พูดถึงเรื่องจริงในปัจจุบันหรือเล่าเหตุการณ์ต่อเนื่อง

เช่น demonstrations, commentaries, หรือเป็น informal narrative 

เช่น In Act 1, Hamlet meets the ghost of  his father.

2.4 ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นประเพณี นิสัย สุภาษิต ซึ่งไม่ได้เจาะจงว่าเวลาใด

เช่น  Men wearthin clothes in summer.

              That man speaks English as well as he speaks his own language.

              Women are dressed all in black when going to the funeral.

              Actions  speak louder  than words.

              Men wear thin clothes n summer.

              That man speaks English as well as he speaks his own  language.

              Women are dressed all in black when going to the funeral.

2.5 อาจใช้พูดถึงเรื่องในอดีตได้ในกรณีนี้ทำให้เหตุการณ์ดูสดใหม่

เช่น Christopher Columbus discovers “the New World”.

2.6 โดยปกติแผนเตรียมการต่างๆที่จะกระทำในอนาคตอันใกล้ ให้ใช้ Future Simple แต่สามารถใช้ Present Simple แทนได้

เช่น They start on their trip tomorrow.

            I leave by the 2.30 train this afternoon. 

3. การเติม S หลักการเติม s es

     การเติม S หลักการเติม s es มีดังนี้    หากประธานเป็นเอกพจน์ กริยาเติม s,es ส่วนประธานพหูพจน์ไม่ต้องเติม หลักการเติมมีดังนี้                                                                                                     

3.1 เติม s หลังคำกริยาปกติทั่วๆ ไป เช่น

คำเดิม	คำอ่าน	เติม s	คำอ่าน	คำแปล
come	คัม	comes	คัมส	มา
cut	คัท	cuts	คัทส	ตัด
drink	ดริงค	drinks	ดริงคส	ดื่ม
feel	ฟีล	feels	ฟีลส	รู้สึก
eat	อีท	eats	อีทส	กิน
swim	สวิม	swims	สวิมส	ว่ายน้ำ

3.2 เติม es หลังคำหริยาที่ลงท้ายด้วย s, sh, ch, x,  z และ o เช่น

คำเดิม	คำอ่าน	เติม s	คำอ่าน	คำแปล
catch	แค็ทช	catches	แค็ชเช็ส	มา
kiss	คิส	kisses	คิสเส็ส	จูบ
teach	ทีช	teaches	ทีชเช็ส	สอน
wash	วอช	washes	วอชเช็ส	ล้าง
buzz	บัส	buzzes	บัสเส็ส	ส่งเสียงหึ่งๆ
fix	ฟิกส	fixes	ฟิกเซ็ส	ซ่อม
go	โก	goes	โกส	ไป
do	ดู	does	ดัส	ทำ

3.3  คำกริยาที่ลงท้ายด้วย y มี 2 ประการดังนี้

หน้า y เป็นสระ ( a , e , i , o , u ) ให้เติม s ได้เลย เช่น

คำเดิม	คำอ่าน	เติม s	คำอ่าน	คำแปล
buy	บาย	buys	บายส	ซื้อ
play	พเล	plays	พเลส	เล่น
say	เซ	says	เซส	พูด
pay	เพ	pays	เพส	จ่าย
stay	สเต	stays	สเตส	พัก

แต่หน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es เช่น

คำเดิม	คำอ่าน	เติม s	คำอ่าน	คำแปล
fly	ฟลาย	flies	ฟลายส	บิน
cry	คราย	cries	ครายส	ร้องไห้
study	สตัดดิ	studies	สตัดดิส	เรียน
try	ทราย	tries	ทรายส	พยายาม

4.โครงสร้างประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ คำถาม PRESENT SIMPLE TENSE

4.1 โครงสร้างประโยคบอกเล่า

            ประธาน + กริยาช่องที่ 1 (ประธานเอกพจน์กริยาเติม s, es)

I, You, We, They, Cats	eat.
He, She, It, A cat	eats.

ประธาน +กริยาช่วย+กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)

I, You, We, They, Cats He, She, It, A cat

can should must

eat.

ตัวอย่าง 
       I eat a banana.
      She eats a banana.
      We should eat bananas.
      He can eat banana.
      A cat must eat bananas.

4.2 โครงสร้างประโยคปฏิเสธ

ประธาน + do/ does + not + กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)

I, You, We, They, Cats	do not	eat.
He, She, It, A cat	does not	eat.

ตัวย่อ

do not  = don’t  (โด้นท) /    does not = doesn’t  (ดัสเซินท)

ตัวอย่าง

            I don’t eat a banana.

            She doesn’t eat a banana.

ประธาน + กริยาช่วย + not + กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)

I, You, We, They, Cats He, She, It, A cat

cannot should not must not

eat.

  

ตัวย่อ

cannot = can’t แค้นท   /should not = shouldn’t ชุ๊ดดึนท / must not = mustn’t  มัสซึนท                                                                                                    

ตัวอย่าง                                                                                     

 I can’t eat a banana.                                                                                   

She shouldn’t eat a banana.                                                                            

You must not eat bananas.

4.3 โครงสร้างประโยคคำถาม

การทำประโยคคำถามจากประโยคบอกเล่า ให้ดูว่ามี กริยาช่วย อยู่ด้วยหรือเปล่า ถ้ามีให้เอากริยาช่วยนำหน้าได้เลย  ถ้าไม่มีกริยาช่วยให้เอา Verb to do (Do, Does) มาใช้แทน

Do/Does + ประธาน + กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)

Do	I, you, we, they, cats	eat?
Does	he, she, it, a cat	eat?

 ตัวอย่าง

Do you eat a banana?

Yes, I do. /No, I don’t.                                                                          

Does she eat a banana?                                                                                               

Yes, she does. /No, she doesn’t.

หลักของการแปลคำตอบ จริงๆแล้ว ต้องตอบว่า Yes, I do eat a banana. แต่เนื่องจากว่าถ้าตอบอย่างนี้มันก็จะซ้ำกับคำถาม เลยถูกตัดทอนอยู่ที่กริยาช่วยแค่นั้นพอ และเวลาแปลจะแปลว่า “ใช่” หรือ “ใช่ ผมกินกล้วย” ขึ้นอยู่กับผู้เรียนเอง แต่ขอให้เข้าใจว่า มันมีที่มาที่ไปอย่างไร

 กริยาช่วย + ประธาน + กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)

Can Should Must

I, You, We, They, Cats He, She, It, A cat

eat?

ตัวอย่าง

Can you swim?                         Yes, I can. หรือ No, I can’t.

Can’t you swim?                       Yes, I can. หรือ No, I can’t.

Should I go now?                     Yes, you should. หรือ No, you shouldn’t.

Must she go now?                    Yes, she must. หรือ No, she mustn’t. 

ประเด็นที่ต้องจดจำ

1. ประโยคบอกเล่า ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ กริยาให้เติม s แต่ถ้าประโยคนั้นมีกริยาช่วยแทรกอยู่ ก็ไม่ต้องเติม s เช่น

            She swims everyday.                She can swim. 

            She must swim.                        She should swim.

 2. ประโยคปฏิเสธ และคำถาม แม้จะเป็นประธานเอกพจน์ กริยาแท้ไม่เติม s

    ทุกกรณี เช่น

            Does she swim everyday?                    She does not swim.

            Can she swim?                                     She can’t swim. 

สรุปรวมประโยค Present Simple Tense

กริยาแท้ Verb to be ( is,  am,  are)    is am are ที่ยกตัวอย่างนี้ เป็นกริยาแท้  (เพราะมีตัวเดียวในประโยค ไม่ได้ไปเสริมกับกริยาตัวอื่น) เช่น

บอกเล่า She is a doctor.
ปฏิเสธ  She is not a doctor. หรือ She isn’t a doctor.
คำถาม  Is she a doctor?
คำตอบ Yes, she is. / No, she isn’t. หรือ No, she is not.

บอกเล่า I am a student.
ปฏิเสธ  I am not a student. หรือ I’m not a student.
คำถาม  Are you a student?
คำตอบ Yes, I am. / No, I’m not. หรือ No, I am not.

บอกเล่า You are  a tiger.
ปฏิเสธ  You are not a tiger. หรือ You aren’t  a tiger.
คำถาม  Am I a tiger?
คำตอบ Yes, you are./No, you are not. หรือ No, you aren’t.

กริยาแท้ Verb to have (Have, Has)   กริยาตัวนี้ ถ้าเป็นกริยาแท้ในประโยค ไม่ควรเอานำหน้าเพื่อทำเป็นประโยคคำถาม ถึงแม้จะถูกต้องตามไวยากรณ์ แต่ก็ไม่นิยมใช้กันแล้วการสร้างประโยคคำถามและปฏิเสธให้เอา Do กับ Does มาใช้ (เดี๋ยวค่อยเรียนรู้ให้ละเอียดในหัวข้อ การใช้ have has)

บอกเล่า He has a car.
ปฏิเสธ  He does not have a car. หรือ He doesn’t have a car. 

คำถาม  Does he have a car?
คำตอบ Yes, he does. / No, he does not. หรือ No, he doesn’t .

บอกเล่า They have a cat.
ปฏิเสธ  They do not have a cat. หรือ They don’t have a cat. 

คำถาม  Do they have a car?      

คำตอบ Yes, they do. / No, they do not. หรือ No, they don’t. 

กริยาช่วย can, should, must

บอกเล่า A dog can swim.
ปฏิเสธ  A dog cannot swim. หรือ A dog can’t swim.
คำถาม Can a dog swim?
คำตอบ Yes, a dog can. / No, a dog cannot. หรือ No, a dog can’t. 

บอกเล่า She must go.
ปฏิเสธ She must not go. หรือ She mustn’t go.    

คำถาม Must she  go?
คำตอบ Yes, She must. / No, she must not. หรือ No, she mustn’t. 

บอกเล่า Somchai should go to school now.
ปฏิเสธ  Somchai should not go to school now. หรือ Somchai shouldn’t go to school now.
คำถาม  Should Somchai go to school now? 

คำตอบ Yes, Somchai should. / No, Somchai should not. หรือ No, Somchai shouldn’t. 

ถ้าไม่มีกริยาช่วยในประโยคให้เอา Do กับ Does มาใช้ในประโยคคำถาม 

Do + ประธานพหูพจน์          Does + ประธานเอกพจน์

บอกเล่า  They go to school by bus.   

ปฏิเสธ  They do not go to school by bus. หรือ They don’t go to school by bus.
คำถาม  Do they go to school by bus?
คำตอบ Yes, they do. / No, they do not. หรือ No, they don’t. 

บอกเล่า  He goes to school.
ปฏิเสธ  He does not go to school . หรือ He doesn’t go to school. 

คำถาม  Does he go to school?
คำตอบ Yes, he do. / No, he does not. หรือ No, he doesn’t.

*** ประโยคคำถามด้านบนเรียกว่า yes – no question เพราะคำตอบจะเป็น yes กับ no

การสร้างคำถามโดยใช้ Wh-Question

(Who, What, Where, When, Why, How) ทำได้โดยเอาคำเหล่านี้นำหน้าประโยค

คำถาม Is she a doctor? หล่อนเป็นหมอใช่ไหม                                                    

Who is she?  หล่อนเป็นใคร (ตัดหมอออก เพราะต้องการคำตอบเป็นบุคคล)           

She is a doctor.  หล่อนเป็นหมอ                                                                                                

Do they have a car? พวกเขามีรถใช่ไหม                                                                        

What do they have?  พวกเขามีอะไร (ตัดรถออกเพราะต้องการคำตอบสิ่งของ)                        

They have a car. พวกเขามีรถ          

Does he go to school? เขาไปโรงเรียนใช่ไหม 

Where does he go? พวกเขาไปที่ไหน 

(ตัดโรงเรียนออก เพราะต้องการคำตอสถานที่) 

He goes to school. เขาไปโรงเรียน 

Should Somchai go to school now? สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้ใช่ไหม 

Why should Somchai go to school now? ทำไม สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้                                   (ไม่ตัดอะไรเลย เพราะคำตอบไม่ได้อยู่ในประโยค)

Because he will be late. เพราะว่า เขาจะไปสาย                                            

Do they go to school by bus? พวกเขาไปโรงเรียนโดยรถบัสใช่ไหม

How do they go to school? พวกเขาไปโรงเรียนอย่างไร

(ตัดโดยรถบัสออก เพราะคำตอบต้องการวิธีการ)

สรุปประเด็นที่ต้องจดจำให้ได้

1.การสร้างประโยคคำถาม (yes – no question) จากประโยคบอกเล่า ให้ดูว่ามีกริยาช่วยอยู่หรือเปล่า ถ้ามีให้นำหน้าประโยคได้เลย (แต่ไม่ใช่ทุกตัว) ถ้าไม่มี ให้เอา Do กับ Does มาใช้แทน

2. การสร้างประโยคคำถาม (wh- question) ให้เอา wh-question นำหน้า yes-no question ได้เลย แต่ต้องตัดคำตอบออกด้วย

 หลักการใช้ Present Simple Tense สรุปได้ดังนี้

1. ใช้บอกกล่าว เล่าข้อเท็จจริงทั่วไปของ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ 

2. โครงสร้าง คือ ประธาน + กริยาช่องที่ 1  หรือ ประธาน + กริยาช่วย + กริยาช่องที่ 1

3. ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ กริยาต้องเติม s หรือ es  

4. ประโยคคำถามนั้น ถ้ามีกริยาพิเศษบางตัว ให้เอากริยานั้นนำหน้าประโยคได้เลย ถ้าไม่มีให้เอา Verb to do มาใช้   

           5. มีคำกริยา 3 ตัวที่ควรเรียนรู้และจำให้แม่น ใน Present Simple Tense ที่ต้องจดจำให้แม่น เพราะจะใช้กับ Tense อื่นๆด้วย ได้แก่
                                Verb to be (is am are)
                                Verb to have (have has)
                                Verb to do (do does) 

          แบบฝึกหัด

ชุดที่ 1

Complete the correct verb in Present Simple Tense

1. I (like)_______ pizza.

2. He (hate)________ garlic.

3. My sister (prefer)______________ tea to coffee.

4. I (want) ________________to get away from here.

5. She (not / understand) __________________me.

6. I (not / believe) _________________it.

7. I (not / know) ________________why you are so mean.

8. We (not / think) ________________that this is right.

9. What (mean / it)_________________ ?

10. (you / hear) _______________the music?

ชุดที่ 2

  จงเรียงคำต่อไปนี้ให้ถูกต้อง

University? sister    study    what    your    does    at

...............................................................................................

sport    play    does    any    she    ?

.........................................................................................

music    what    like    kind    you    of    do    ?

............................................................................................

magazines    read    any    you    do    ? 

........................................................................................

friend    live    town    your    your    does    best    in    ?

.............................................................................................

cinema    often    the    you    to    do    go    ? 

...........................................................................................

เฉลยแบบฝึกหัด
Present Simple Tense

ชุดที่ 1

1. I like pizza.

2. He hates garlic.

3. My sister prefers tea to coffee.

4. I want to get away from here.

5. She does not understand me.

6. I do not believe it.

7. I do not know why you are so mean.

8. We do not think that this is right.

9. What does it mean?

10. Do you hear the music?

ชุดที่ 2

- What does your sister study at University?

- Does she play any sport?

- What kind of music do you like?

- Do you read any magazines?

- Does your best friend live in your town?

- Do you often go to the cinema?

Past Simple Tense

1.โครงสร้างประโยค

โครงสร้างประโยคบอกเล่า : S+V1 ประธาน (ทุกตัว) + กริยาช่องที่ 2

I, You, We, They, Cats He, She, It, A cat

ate

เช่น   I ate bananas yesterday.                        You cooked dinner for me last week.
We cleaned the house last month.                 They danced last night.
Two Cats died last year.                                 He bought a computer last Sunday.
She gave you her heart last Christmas.           It rained heavily last rainy season.
                        The train arrived at 8 o’clock this morning.

โครงสร้างประโยคปฏิเสธ

ประธาน + did+ not + กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)

I, You, We, They, Cats He, She, It, A cat

did not

eat.

ตัวย่อ                                                                                                                                                     did not  = didn’t  (ดิด+อือ+ท อ่านเร็วๆเป็น ดิดอึทะ) 

ตัวอย่าง  

I did not eat bananas yesterday.                     You didn’t cook dinner for me last week.
We did not clean the house last month.          They didn't dance last night.
Two Cats did not die last year.                        He didn't buy a computer last Sunday. It did not rain heavily last rainy season.                   Last Christmas, she did not give you her heart.
                        The train didn't arrive at 8 o’clock this morning.

ประโยคคำถาม  Yes / No Question

            การทำประโยคคำถามให้เอาคำว่า Did มาวางไว้หน้าประโยคแค่นั้นเองและอย่าลืมเติมเครื่องหมายคำถามท้ายประโยคด้วย

             ประโยคคำถามแบ่งออกเป็นสองประเด็นคือ ถามในรูปแบบบอกเล่า และถามรูปแบบปฏิเสธ

1. การถามในรูปแบบบอกเล่า 

Did + ประธาน + กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)

Did

I, you, we, they, cats he, she, it, a cat

eat?

ตัวอย่าง

  Did you eat bananas yesterday?            Yes,I did. /No, I didn't.
  Did I cook dinner for you last week?     Yes, you did. / No, you didn't.
  Did we clean the house last month?        Yes, we did. / No, we didn't.
  Did they dance last night?                      Yes, they did./ No, they didn't.
  Did two Cats die last year?                    Yes, they did./ No, they didn't.

 2. การถามในรูปแบบปฏิเสธ

การถามในรูปปฏิเสธแบ่งออกอีกสองประเด็นคือ ในรูปแบบเต็ม และรูปแบบย่อ  รูปแบบเต็ม  Did + ประธาน +not+ กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)

Did

I, you, we, they, cats he, she, it, a cat

not

eat?

รูปแบบย่อ  Didn't + ประธาน + กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)

Didn't

I, you, we, they, cats he, she, it, a cat

eat?

ตัวอย่าง

Did he not buy a computer last Sunday?                    

Did he not give you her heart last Christmas.                               

Didn’t It rain heavily last rainy season.                                                 

Didn’t the train arrive at 8 o’clock this morning.

ประโยคคำถาม Wh- Question

          ให้เอาคำเหล่านี้ (Who, What, Where, When, Why, How) นำหน้าประโยค ตามด้วย  did                               ** คำว่า Who กับ What ให้ตามด้วย กริยาช่อง 2 ในกรณีที่ใช้ Who กับ What เป็นประธานของประโยค**

เช่น

  -  Who ate bananas yesterday?                     I did.

  -  What ate bananas yesterday?                    A monkey did.

  -  Who did you see at the party.                   I saw Jane.

  -  What did you eat this morning.                  I ate bananas.

  -  Where did you cook last week.                 I cooked in the garage.

  -  When did we clean the house?                  We cleaned the house last month. 

  - How did they dance last night.                    They dance slowly.

  - Why did two cats died last year?                They had nothing to eat.

  2. หลักการใช้ Past Simple Tense

2.1 เหตุการณ์ที่กระทำแล้ว จบแล้วในอดีต  เช่น

      He bought a radio last month.

       She came to my house last year.

       It rained two days ago.

       They ate dinner two hours ago.

       Jane met Jo ten days ago.

       I was at school yesterday.

       They were at home last weekend.

       We had two cups of coffee this morning. 

        Mandy went to the hospital twice yesterday.

 2.2 เหตุการณ์ที่กระทำเป็นนิสัยในอดีต และจะต้องมีคำแสดงเวลาในประโยคด้วย เช่น

      She always went to school late last month.

      We some times watched movies at home last year.

      I never read books in the evening last month.                                                               

      He always got up late last year.

      Nong Toom went to the night club every week

      when he was in grade 11. 

2. 3  เป็นการเล่าเรื่องที่ผ่านๆมาในอดีต หรือในบางกรณีอาจใช้ในการเล่านิทานเช่น

        THE LITTLE MERMAID ตำนานรักธิดาสมุทร

The sea king lived in under the sea. His palace was made of shells and sparkling stones. His mother and six daughters also lived with him. All his daughters were beautiful but his young daughter was the most beautiful.She was not like the others. Her sisters liked to play. But she liked to listen to stories.  

แบบฝึกหัด

Past Simple Tense

ชุดที่ 1

    เขียนรูป past simple ของคำกริยาต่อไปนี้
1. begin ………………….                    2. bring ………………….
3. buy ……………………                    4. catch ………………….
5. drink …………………..                    6. find ………………….
7. forget ………………….                    8. hear ………………….
9. put …………………….                    10 sell ………………….

11. speak …………………                   12. stand ………………….

13. think …      13. think ………………….                    14. meet ………………….
                                      15. sit ………………….

ชุดที่ 2

            จงเปลี่ยนประโยคต่อไปนี้ให้เป็น a. คำถาม b. ปฏิเสธ
1. Alex went to Hong Kong last month.
a.………………………………………………………

b.………………………………………………………

2. She did her homework last night.
a.………………………………………………………

b.………………………………………………………

3. Our teacher drove her car to school.
a.………………………………………………………

b.………………………………………………………

4. Jane saw a big dog in the street.
a.……………………………………………………

b.……………………………………………………

5. They live in downtown.
a.……………………………………………………

b.……………………………………………………

ชุดที่ 3

            จงตอบคำถามโดยใช้คำตอบที่กำหนดให้
1. Did Jack go to Singapore last month? (No)
…………………………………………………………………………

2. Did they have dinner with you last night? (Yes)
…….…………………………………………………………………

3. Did the train arrive late yesterday? (Yes)
…………………………………………………………………………

4. Did the maid sweep the floor this morning? (No)
…………………………………………………………………………

5. Did Jack drink any beer? (No)

………………………………………………………………………

เฉลยแบบฝึกหัด

Past Simple Tense

ชุดที่ 1เขียนรูป past simple ของคำกริยาต่อไปนี้
1. begin   begun                                  2. bring    brought
3. buy      bought                                4. catch   caught
5. drink    drunk                                 6. find      found
7. forget   forgot                                 8. hear     heard
9. put       put                                     10 sell      sold
11.speak spoke                                 12.stand   stood
13. think  thought                               14. meet   met
                                 15. sit  sit

ชุดที่ 2   

     จงเปลี่ยนประโยคต่อไปนี้ให้เป็น a. ปฏิเสธ b.คำถาม
1. Alex went to Hong Kong last month.
a. Alex didn’t go to Hong Kong last month.
b. Did Alex go to Hong Kong last month?
2. She did her homework last night.
a. She did not do her homework last night.
b. Did she do her homework last night?
3. Our teacher drove her car to school.
a. Our teacher did not drive her car to school.
b. Did our teacher drive her car to school?

4. Jane saw a big dog in the street.
a. Jane did not see a big dog in the street.
b. Did Jane see a big dog in the street?
5. They lived in downtown.
a. They did not live in downtown.
b. Did they live in downtown?

ชุดที่ 3

      จงตอบคำถามโดยใช้คำตอบที่กำหนดให้
1. Did Jack go to Singapore last month? (No)
No, he did not go to Singapore last month. หรือ No, he didn’t.
2. Did they have dinner with you last night? (Yes)
Yes, they had dinner with me last night. หรือ Yes, they did.
3. Did the train arrive late yesterday? (Yes)
Yes, it arrived late yesterday. หรือ Yes, it did.
4. Did the maid sweep the floor this morning? (No)
No, she did not sweep the floor this morning. หรือ No, she didn’t.
5. Did Jack drink any beer? (No)

No, he did not drink any beer. หรือ No, he didn't.

แบบทดสอบ